ภาพถ่ายอินฟราเรดของดวงจันทร์ไอโอ ซึ่งยานจูโนบันทึกไว้ได้เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา เผยแพร่ภาพถ่ายย่านรังสีอินฟราเรดของดวงจันทร์ไอโอ (Io) บริวารของดาวพฤหัสบดีเป็นครั้งแรก โดยภาพนี้เผยให้เห็นจุดที่มีความร้อนสูงหลายร้อยแห่ง ซึ่งก็คือเครือข่ายภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นและทะเลสาบลาวาที่กำลังเดือดพล่านจำนวนมาก

.

ภาพดังกล่าวบันทึกโดยยานจูโน (Juno) ขณะบินเฉียดเข้าใกล้ดวงจันทร์ไอโอเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นภาพขณะที่ยานอยู่ห่างจากพื้นผิวดาว 80,000 กิโลเมตร

.

ดร. สกอต โบลตัน ผู้นำทีมสำรวจของยานจูโน รายงานต่อที่ประชุมสหภาพธรณีฟิสิกส์อเมริกัน (AGU) เมื่อวันพุธที่ 14 ธ.ค.ว่า ภูเขาไฟและทะเลสาบลาวาที่พบ มักปรากฏอยู่แถบขั้วเหนือและใต้ของดาวมากกว่าแถบเส้นศูนย์สูตร ทำให้ดวงจันทร์ไอโอเป็นดาวที่มีภูเขาไฟมากที่สุดในระบบสุริยะ

.

ยานจูโนได้บินเฉียดเข้าใกล้ดวงจันทร์ไอโออีกครั้ง เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเข้าสำรวจในระยะใกล้ครั้งที่ 1 จากที่จะมีขึ้นทั้งหมด 9 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1.5 ปีข้างหน้า หลังจากที่ได้โคจรสำรวจดาวพฤหัสบดีมาตั้งแต่ปี 2016 รวมทั้งบินเฉียดดวงจันทร์ยูโรปา (Europa) และแกนีมีด (Ganymede) มาแล้วในปี 2021

.

พายุหมุนบนดาวพฤหัสบดีมักปรากฏอยู่แถบขั้วเหนือและใต้มากกว่าแถบเส้นศูนย์สูตร

ในครั้งนี้ทีมวิจัยของนาซามุ่งจะเก็บข้อมูลความเคลื่อนไหวของเครือข่ายภูเขาไฟบนดวงจันทร์ไอโอ ซึ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กของมัน และยังมีอิทธิพลต่อสนามแม่เหล็กทรงพลังขนาดมหึมาของดาวพฤหัสบดี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าโลก 20,000 เท่าด้วย

.

ดร. โบลตันเชื่อว่ามีการ “เล่นชักเย่อ” ระหว่างสนามแม่เหล็กของดาวทั้งสอง ขณะที่มันโคจรเข้าใกล้กัน เป็นสาเหตุให้เกิดออโรราหรือแสงเหนือแสงใต้ที่สว่างเจิดจ้าที่สุดในระบบสุริยะบนดาวพฤหัสบดี

.

ข้อมูลการสำรวจเครือข่ายภูเขาไฟบนดวงจันทร์ไอโอนี้ ยังสามารถใช้เป็นพื้นฐานให้กับโครงการอื่น ๆ ใช้ต่อยอดสำรวจบริวารที่เหลือของดาวพฤหัสบดีได้ในอนาคต อย่างเช่นภารกิจ Clipper ของนาซา ที่จะสำรวจหาสิ่งมีชีวิตบนดวงจันทร์ยูโรปาในเร็ววันนี้

ที่มา : BBC https://www.bbc.com/thai/articles/cw0jzw30281o